เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อทุกๆคน ทุกประเทศ ทุกเชื้อชาติ ทุกสังคมชนชั้น รวยหรือจน ทุกยุค แต่ไม่มีใครสักคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ จริงๆ เคยมีคนตอบคำถามนี้มาแล้ว แต่ไม่มีใครเข้าใจและปฏิบัติตามได้

โดยข้อเท็จจริงแล้ว ความสุขเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะรับรู้ได้ ความสุขของคนๆหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเสียแล้ว ความสุขของคนทั้งชายและหญิง สามีและภรรยาก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นเวลานานสัก 1 เดือน 1 ปี สำหรับเรื่องความสุขแล้วไม่ง่ายนักที่จะรับรู้และเข้าใจได้ ความสุขร้อยปีก็เป็นแค่ความปราณรถนา ที่ไม่เคยมีใครได้ประสบเลยสักคนเดียว หนึ่งร้อยปีแห่งความสุขก็เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งที่ฝันว่าจะได้มีความสุขเท่านั้น ความสุขต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานและภายนอก เช่น ร่างกาย สิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม การประพฤติปฎิบัติ ประเทศ เชื้อชาติ และภาษา เป็นต้น และองค์ประกอบภายใน เช่น ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะมองว่าเป็นปัจจัยด้าน จิตวิญญาณ

คนส่วนใหญ่เมื่อพูดเรื่องความสุข เช่น ในกรณีของการแต่งงาน ความสุข ระหว่างสามีและภรรยา คู่สมรส เพื่อทำให้ทั้งคู่ได้มีความสุข พวกเขาจะต้องรู้จักผสมกลมกลืนทั้งทางด้านร่างกาย คุณลักษณะ ความรัก ความรู้สึก ความชอบ ทัศนคติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี นิสัย ความต้องการ ความปรารถนา ฯลฯ ยิ่งมีความสามารถในการผสาน ภายในครอบครัวของคุณอาจเปราะบางไม่แข็งแรงนัก เริ่มจากสิ่งที่รำคาญบางอย่าง เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เราไม่เคยเฉลียวใจ ซึ่งอาจเป็นเรื่อง ก้อนอิฐ ประตู รั่วบ้าน สามีภรรยาอาจมีปากเสียงกัน พ่อและลูกอาจไม่ลงรอยกัน ถ้าเราให้ความรักแก่ลูกมากขึ้น ดูแลเอาใจใส่พวกเขาดีขึ้น แสดงความรักต่อพวกเราด้วยความจริงใจแล้ว พวกเราจะรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น

เมื่อพูดถึงการรักตนเอง คนเรานึกว่าเป็นเรื่องง่ายๆ บางคนคิดว่าการรักตนเองเป็นการเห็นแก่ตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใชเช่นนั้น การรักตนเองไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำได้อย่างง่ายๆ แต่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากมากๆ เอาแค่เรื่องรักร่างกายของตนเองก็เป็นเรื่องที่ทำยากเสียแล้ว จงหัมามองเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของนักร้องยอดนิยม ไมเคิล แจ็คสัน เขาเป็นคนที่ไม่รักตัวเขาเอง เขาไม่ต้องการมีรูปลักษณ์อย่างใบหน้าของเขา เขาไม่รักสีผิวของเขา เขาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่กว่ามาแล้ว ผลก็คือใบหน้าของเขาเสียโฉม ร่างกายและผิดหนังของเขาได้รับอันตรายเสียหาย เราคงจะไม่ต้องทำอย่างไม่เคิล แจ็คสัน รหือจะทำก็ได้ แต่ให้ระวังความคิดของพวกคุณก็แล้วกันว่า อย่าให้เหมือนกับความคิดของไมเคิล แจ็คสัน พวกเราอาจไม่ค่อยชอบใบหน้าของตนเอง รูปทรงเรือนร่างของตนเอง สีผิวของตนเอง ชาติกำเนิด ภาษา พ่อแม่ ฯลฯ นั่นหมายความว่า พวกเราไม่ได้รักตนเอง และที่สุดพวกเราก็จะเป็นทุกข์

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ไม่รักตนเองอีกมากมายนับจำนวนไม่ถ้วน พวกเราอาจไม่รักสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น ของสามีภรรยา ของลูกๆ พี่ชายและน้องสาวของเรา เพื่อนของเรา ชื่อของเรา ยศตำแหน่งของเรา เงินทองของเรา รถของเรา ประเทศของเรา ศาสนาของเรา วัฒนธรรมของเรา เป็นต้น ผลที่สุดเราก็อาจเป็นทุกข์ ไม่มีความสุข ถ้าเราอยากจะมีความสุขเราต้องทำในสิ่งที่กลับกัน เราต้องให้ความรัก และรักทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งเราจะต้องทำตัวอยู่ในสภาวะที่ปลอดโปร่ง สดใส พวกเราต้องไม่ตาบอด โง่ รักอย่างบ้าคลั่ง แต่รักด้วยปัญญา

ทำไมในเมื่อเรารักตนเองแล้ว เราต้องไม่รักเฉพาะผู้อื่นเท่านั้น หากแต่ยังต้องรักทุกสิ่งทุกอย่างด้วย ก็เพราะว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มใหญ่ ไม่ใช่คนๆเดียว โดดเดี่ยวต่างหาก เช่น สิงโต พวกมันไม่สามารถแยกันอยู่ตามลำพัง ถือสันโดษและยิ่งไปกว่านั้นสิงโตยังต้องต่อสู้กับมนุษย์ หรือรักเกียจสัตว์อื่น มนุษย์ต้องการแลกเปลี่ยน ให้ความร่วมมือกันและมนุษย์จะต้องสู้กับความหว้าเหว่ เงียบเหงา คนเราจะมีทุกข์เพราะความเหงา โดยลำพังตนเองแล้ว มนุษย์ไม่สามารถที่จะพัฒนาขีดความสามารถใดๆได้ เพราะเหตุนี้พวกเราจึงต้องขอบคุณสังคมที่เราอยู่อาศัย ยิ่งมีผู้คนมากเท่าไร พวกเราก็ยิ่งต้องมีการติดต่อกัน เพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าตามที่พวกเราต้องการ

ความสุขของพวกเราจะเพิ่มพูนมากขึ้นเป็นหลายเท่า ไม่เพียงแต่พวกเราจะรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น แต่พวกเรายังรัก ต้นไม้ พืช ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสัตว์โลกทุกสายพันธุ์ด้วย ถ้าพวกเรามีความรุ้สึก เป็นสุขที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ส่องแสงในยามเช้า และยามบ่าย ได้ยินเสียงนกร้อง ได้เห็นปุยเมฆลอยอยู่ในท้องฟ้า ได้ทอดสายตามองไปยังภูเขาสูงหรือมหาสมุทรกว้างใหญ่ ได้เห็นความงามของบุปผชาติ ผีเสื้อสีสวยงาม เมื่อพวกเรารู้สึกประทับใจในภาพวาดศิลปะ บทประพันธ์ภาพยนต์ เมื่อพวกเรารู้สึกร่าเริงชื่นชมในเสียงกระแสน้ำไหลริน เสียงน้ำกระฉอก เมื่อพวกเราชื่นท้องฟ้า ดวงจันทร์และดวงดาว รักและสนุกกับเสียงดนตรี พวกเราก็ระลึกได้ว่าโลกนี้แท้จริงก็คือ สวรรค์นั่นเอง เป็นของขวัญที่พิเศษสุดที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ได้มอบให้แก่มนุษยชาติ สวรรค์ก็มิใช่ที่อื่นใดที่พวกเราฝันถึงหรือเสาะแสดงหากัน

พลังจักรวาลขั้นต้น เป็นบทเรียนพัฒนาจิตด้วยการรักษาโรค บททดสอบที่ดี ที่ได้ผลที่สุดก็คือ ความเจ็บป่วยโดยผู้เรียนจะต้องมุ่งมั่นตั้งใจส่งพลังรักษาด้วยวิชาที่ได้เรียนมา จึงจะสำเร็จแบบทดสอบที่ได้รับ จะต้องใช้ความรู้ที่ได้เรียนมา ฝึกฝนส่งพลังจนสำเร็จจะได้รู้ว่าพลังจักรวาลใช้ได้จริงหรือไม่ เหมือนพี่น้องพลังจักรวาลทั่วโลกนับล้านคนได้ฝึกจนประสบความสำเร็จแล้วครับ

คนทั่วไปส่วนใหญ่ชอบเรียนบทเรียน สุขๆ สบายๆ ง่ายๆ ไม่ชอบบทเรียนยากลำบากศิษย์พลังจักรวาลขั้นต้น ในระยะฝึกฝนแรกๆ อาจจะเรียนความทุกข์ ความเจ็บป่วยยากลำบากเล็กๆก่อน แต่ถ้าจะเรียนต่อในระดับสูงขึ้น บทเรียนก็จะเข้มข้น ตามชั้นเรียน แต่จะแปลกแตกต่างเหมาะสมไปตามสภาพ
ระดับความรู้แจ้ง และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้นแต่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ก่อนอื่นสิ่งแรกที่ต้องฝีกคือ ตัดความกลัวออกไปให้เหลือน้อยที่สุด

“เบื้องบนให้บทเรียน บททดสอบ และให้คำเฉลยพร้อมความสามารถพิเศษแก่เราแล้ว ” เราต้องพัฒนาเพื่อความรู้แจ้ง

“เบื้องบนไม่สัญญาอะไร แต่ท่านจะไม่ทอดทิ้งเรา”
คนที่ประสบความสำเร็จในวิชาพลังจักรวาล ไม่ได้ฝึกวันสองวัน เดือนสองเดีอน

แต่ละท่านฝึกเป็นปีๆ และได้ผ่านการทดสอบกันมาอย่างแสนสาหัส และจบสิ้นลงด้วยความ
สุขใจ และภาคภูมิใจ

ที่ผ่านพ้นสำเร็จมาได้นั้น ด้วยกำลังใจที่ว่า เบื้องบนไม่สัญญาอะไร แต่ท่านจะไม่ทอดทิ้งเรา
อาจารย์ใหญ่เลีองมินห์ด๋าง และเบื้องบนอยู่เคียงข้าง ช่วยเหลือเราเสมอไม่มีใครตกต่ำ หรือสูญเสียอะไร

ทุกคนที่ฝึกเป็นขั้นเป็นตอน จะมีความสามารถ จิตได้พัฒนา มีจิตเมตตา เป็นผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน

บัญญัติ 5 ประการ
สำหรับผู้นำพลังจักรวาลไปใช้และปฏิบัติวิชาพลังจักรวาลต้องการให้ผู้นำไปปฏิบัติ มีความคิดและความประพฤติดังต่อไปนี้

  1. ผู้ปฏิบัติต้องฝึกจิตใจของตัวเอง ตลอดเวลา ให้เกิดความสงบอย่างแท้จริง ในทุกรูปแบบ เมื่อถูกกระทบ ตั้งแต่เรื่องเล็กที่สุดในครอบครัว จนถึงเรื่องสูงสุดในสังคม นี้เป็นวิธีการศึกษาบวชเรียน ที่แสนจะยาก โดยต้องการให้ผู้ปฏิบัติ ต้องฝึกหัด ให้บรรลุเป้าหมาย ถึงแม้ว่า ต้องใช้เวลาอันยาวนาน ผู้ปฏิบัติต้องพยายามด้วยแรงกายแรงใจของตัวเอง เพื่อบรรลุถึงผลสำเร็จนั้น เมื่อสามารถปฏิบัติได้เช่นนั้นแล้ว พวกเราจึงสามารถช่วยเหลือผู้ป่วย และสามารถนำความสุขแท้จริง มาให้ผู้ป่วยทั้งหมด
  2. ครอบครัวหรือคู่หมั่นของผู้ปฏิบัติ ถ้ามี ต้องยอมอดทน ต่อการพิสูจน์ต่างๆ ของสังคม และยอมรับทุกสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้ปฏิบัติแม้แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเลวร้ายที่สุด พยายามอดทนได้มากเท่าไ เราก็จะหมดกรรมเร็วเท่านั้น เป็นเช่นนั้น พวกเราจึงสามารถพัฒนาจิตวิญญาณนับวันยิ่งสูงขึ้นได้ เมื่อพัฒนาจิตวิญญาณได้สูงแล้ว ร่างกายของพวกเรา จึงดึงดูดพลังจักรวาลได้อย่างง่ายดาย เป็นเช่นนั้น พวกเราจึงมีความสามารถพอเพียง ที่จะรักษาคนไข้ทั้งหมด ที่มาพบพวกเราได้ ถึงแม้คนไข้เหล่านั้น จะมีโรค ยากต่อการรักษาพยาบาล
  3. ความรักที่เรามอบให้คนไข้ ต้องมีความเทียบเท่ากับความรัก ที่เรามอบให้แก่ครอบครัวของเราเอง ไม่ควรที่จะแบ่งแยกศักด์ศรี หรือยากดีมีจน
  4. ขณะทำการรักษา จิต ความนึกคิด ของผู้ปฏิบัติต้องจดจ่ออยู่ที่ผู้ป่วย “อย่าให้สภาวะแวดล้อมภายนอกและภายใน ทำให้เรา เกิดความไขว้เขว”
  5. วิชานี้ ต้องการให้ผู้ปฏิบัติ ต้องเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้ปฏิบัติเอง
    หมายความว่า ต้องปฏิเสธสามอย่างคือ 1.ชื่อเสียง 2.ผลประโยชน์ 3.ความรัก

    ชื่อเสียง ควรยกให้ประเทศชาติ
    ผลประโยชน์ ควรยกให้ประชาชนในชาติ
    ความรัก ควรมอบให้ผู้คนทั้งหมด

THE CONCEPT ABOUT DEATH
Many people are frightened of the death. When you learn the U.E. techniques, you can help many people to recover from serious sicknesses. However, some people cannot surpass their fate; but when receiving our energy, they would die in peace, silence, and bliss. Some people have understood that death is the transformation to another period; therefore, it is nothing to worry about. The only matter is by loving their families; many people worried that no one helps their families while they had been gone forever. Though, when we completed all duties, our souls will change to a different material body or will be back with God, and then we will be in happiness — no more worries and fears. That happiness is from God helping us understand that we have learned and contributed for life. After death, we will go back to God to learn more and then come back to life on earth to contribute for humanity. Therefore, we will be secured in the matter of living or death. Very few U.E. brothers and sisters are frightened of the death because they have understood about it.

กฎทั่วไปที่ถูกใช้สำหรับศูนย์ให้การรักษา ตามที่ถูกอนุมัติโดย Prof. Dr. Sir Master Luong Minh Dang, M.D.(T.M.),Ph.D.,D.Sc.,K.St.J. (Knight Commander).

คำจำกัดความ นี่คือวิธีการใช้พลังจักรวาลเพื่อการรักษาและป้องกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพ

หลักสูตรอบรม: ตามปกติ, หลักสูตรอบรมถูกออกแบบมาเพื่อสร้างเครื่องมือเหล่านี้ ให้ผู้ที่สนใจ เราให้แนวทางเท่านั้น และผู้ฝึกคือผู้ที่ตัดสินใจ ประสิทธิภาพของการสอนนี้ผ่านการฝึกฝนด้วยตนเอง

SANYO DIGITAL CAMERA

มีหลายๆจุดที่เราต้องแน่ใจว่าผู้เรียนจะเข้าใจเมื่อเข้าเรียนในชั้น:-

  1. เราจะไม่แนะนำสารเคมีใดๆ หรือการรักษาด้วยยา และเราไม่เสนอหลักสูตรควบคุมอาหารใดๆ
  2. เราทำงานร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน และเราไม่ให้ความเห็น ไม่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการรักษาด้วยยา เช่นการทำเคมีบำบัดต่อเนื่อง การผ่าตัดที่เกิดขึ้น เราแนะนำให้ผู้ป่วยปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันของพวกเขาในเรื่องเหล่านี้
  3. เราสามารถใช้วิธีการนี้ในการช่วยเหลือผู้คนเมื่อพวกเขาร้องขอ หากมีการร้องขอและเราไม่ว่าง เราสามารถปฏิเสธได้หรือรอจนกระทั่งเราว่าง ไม่มีข้อห้ามใดๆที่ผู้คนจะสามารถเรียนรู้วิธีการนี้เพื่อสุขภาพของตนเอง หากเขาหรือเธอไม่ต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาหรือเธอยังคงสามารถถ่ายทอดพลังเพื่อรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. เราทำให้ผู้เรียนแน่ใจอยู่เสมอว่านี่ไม่ใช่ศาสนา วิธีการนี้เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้ค้นพบอีกด้านหนึ่งของความสามารถที่ซ่อนอยู่ในจิตใจและร่างกายของมนุษย์ ด้วยการเรียนและการฝึกฝน เราจะสามารถสร้างความรู้ของเราเพื่อที่จะมองเห็นชีวิตได้ดีขึ้น ทั้งมุมมองในด้านกายภาพและจิตวิญญาณ
  5. เราเสนอวิธีการนี้ให้ทุกๆคนโดยไม่มีการกีดกันทางสีผิว, เชื้อชาติ, ศาสนา, เพศ, การเมือง หรือความพิการ ทุกคนสามารถเรียนการรักษาด้วยพลังจักรวาลได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้เรียนต้องอายุไม่น้อยกว่า 14 ปี
  6. เราสามารถส่งพลังเพื่อช่วยคนที่ร้องขอมาและไม่คิดค่าบริการ เราไม่ร้องขอสิ่งใดๆเมื่อคนขอให้เราส่งพลังงานเพื่อรักษาเขาเหล่านั้น
SANYO DIGITAL CAMERA

BYLAWS FOR UNIVERSAL ENERGY HEALING WORLDWIDE CENTERS AND ANNEXES

The general Bylaws to be used for all Worldwide Centers and Annexes, as approved by Prof. Dr. Sir Master Luong Minh Dang, M.D.(T.M.),Ph.D.,D.Sc.,K.St.J. (Knight Commander).

DEFINITION; This is a method of applying Universal Energy as a healing and preventive tool to promote health.

TRAINING COURSES: In general, the Training Courses are designed to make this tool available to the people who are interested. We only provide the guideline, and the practitioners are the ones who decide the effectiveness of this teaching through their personal applications. There are several key points we make sure the students understand when they attend the classes:

  1. We do not prescribe any form of chemical substance nor medication, and we do
    not propose any dietary program.
  2. We work in conjunction with the current medical standard, and we do not give
    advice on medical related issues, such as continuing with chemotherapy, undergoing
    surgery, etc. We strongly recommend the clients to consult with their physicians on
    these matters.
  3. We can apply this technique to help other people upon their request. If there is a
    request and we are not available, we can decline or wait until we are free. There is
    no obligation, a person can learn this technique simply for his/her own health and if
    he/she does not wish to help anyone there is no problem, he/she can still transfer
    energy to heal effectively.
  4. We always make sure the students understand this is not a religion. This method is
    an alternative way to help mankind discover another aspect of the latent potentials
    of the human mind and body. Through the study and practice, we can develop our
    knowledge to have a better view about life from both – physical and spiritual per
    spectives.
  5. We offer This method to alTpeople without any discrimination in regard to color,
    race, religion, sex, politics or physical handicap. Anyone can learn Universal Energy
    Healing, under one condition that he/she must be at least 14 years old.
  6. We can transfer energy to help anyone who requests it and the service is totally
    free of charge. We do not make demands when people ask us to transfer energy to
    heal them.
ความเชื่อมั่น และการนับถือ จะถูกแสดงออกโดยผ่านการกระทำของพวกเรา
You must eradicate all that is not necessary from yesterday, so that you can learn what is today, and then for tomorrow
‘The deed of helping a person is equal to building 5 or 7 temples’.The point here is to help a soul to progress on the spiritual path and
returning to God, not to put money to build 5 or 7 temples and receive the blessing.
Know this, that all life forms are one, we included.And Gods’ spirit is in each of us.
Life helps me discover the Godlike path So I can be of assistance to people during perilous time.
Belief and faith are expressed in the way you act
To fail in bringing happiness is better than succeed in causing suffering
We need to stand above the level of Good-Evil, Right-Wrong, etc., and see both as one. So we can have unity in our mind in order to easily reach Wisdom and Enlightenment.
If you renounce your greed and desires, you will love everybody. And God will be with you.
When man Challenges you. you become weaker, but when God Challenges you, you become stronger
Acceptation gives the absolute freedom.
With the physical body, all humans are influenced by tradition, culture, family society, etc. Therefore, we can only express Love up to 70% maximum. After leaving this body, our soul can fully express Love 100%.
You cannot help anyone in heaven, you can only help here on earth.

ผมเชื่อเถื่องเด๋ที่อยู่ในตน
หากเป็นเถื่องเด๋ที่ลงมาประทับที่กายของคนอื่น ผมก็ไม่เชื่อถือ
เราเชื่อถือเถื่องเด๋ที่อยู่ในตัวเราเท่านั้น
สิ่งนี้พวกคุณต้องจำไว้
พวกคุณอย่าไปนำเถื่องเด๋จากภายนอกมาหลอกใช้ผม
เถื่องเด๋จะไม่สั่งงานเราผ่านร่างกายคนอื่น
พวกเราทุกคนมีสิทธิเต็มร้อย ไม่มีใครบังคับใคร ไม่มีใครบงการใคร
พวกเราทุกคนเหมือนกัน
หากพวกเราตื่นพร้อมก็จะไม่มีใครมาหลอกใช้ได้อีก
เถื่องเด๋หากจะใช้ใครก็จะสั่งโดยตรงกับคนๆนั้น ไม่มีการสั่งผ่านคนอื่น

MASTER LUONG MINH DANG.
27 กุมภาพันธ์ 2546

เราโกหกตัวเองได้ โกหกอาจารย์ได้
แต่เราโกหกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้
การเรียนระดับสูงต้องค้นหาสัจธรรม

เพื่อความรู้แจ้ง
ชีวิตต้องมีทั้งเรื่องดี เรื่องสบาย เรื่องทุกข์ยากลำบากเป็นเรื่องธรรมดา
มันคือชีวิตจริงเราต้องผ่านมันไปให้ได้  ด้วยความรักความเมตตา
               คิดดีแล้วต้องพูดดีๆ ด่าว่าใครให้ตบปากตัวเอง
              ไม่ตัดสินใคร ไม่ถูก ไม่ผิด ช่วยเหลือหมด
ช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน จิตก็จะพัฒนาสูงขึ้น

เรียนบทเรียนความทุกข์ยากลำบากพัฒนาได้เร็วครับ

ความเจ็บปวด การถูกกดขี่ เป็นบทเรียนชั้นสูง
ขอให้อดทนถ้าได้บทเรียนชั้นสูงนี้หมายถึง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังมองเห็นเรารู้ว่าเราพัฒนาได้ ฝึกได้ จึงส่งเทพผู้เสียสละมาให้บทเรียนเรา
อย่าท้อถอย ขจัดความกลัวใช้สิ่งที่เรียนมา
บททดสอบไม่เกินบทเรียนแน่นนอน เราเป็นอิสระ

เปิดจักระ 100% ทางไกล
18 เมษายน2555
ที่ MEL THAILAND 09.00 PM
คุณไพศาลกล่าวเปิดงาน “การส่งพลังจักรวาลเพื่อเปิดจักระ100% ทางไกล” นั้นเป็นความประสงค์ของท่านอาจารย์ด๋าง เมื่อประมาณ 5ปีที่แล้ว ที่จะให้ความสามารถนี้แด่ผู้จบระดับ 20
ดังนั้นภายใต้เงื่อนไขของ HUE FACULTYผู้อนุมัติได้อย่างเป็นทางการ จึงได้คัดกรองผู้จบระดับ 20 ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้ 15 คน สมาธิร่วมกันกับคุณจุง จากนั้นรับเทคนิควิธี การส่งพลังจักรวาลเพื่อเปิดจักระ100% ทางไกลตามต้นฉบับอาจารย์ด๋างจากคุณหวู
ขอบคุณพี่รัชนี หัวหน้าศูนย์ MEL THAILAND ที่เป็นแม่งาน ให้สถานที่ และอุปกรณ์การเชื่อมต่อการสื่อสาร
ขอบคุณคุณวิศิษย์ คุณฮะ ที่ช่วยให้ระบบการสื่อสารราบรื่น
และคุณไพศาลบุคคลสำคัญในวันนี้ ที่ไม่ลืมความประสงค์ของท่านอาจารย์ด๋าง ทำให้เรามีความสามารถเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
นอกจากนี้คุณจุงยังมีเรื่องแจ้งให้ทราบด้วย
เรื่องที่ 1. Certificate การส่งพลังจักรวาลเพื่อเปิดจักระ100% ทางไกล จะส่งมาให้ที่ MEL THAILAND
เรื่องที่ 2. อีกสองเดือนจะลง web.เรื่อง UE ภาษาอังกฤษ และสเปญ เกี่ยวกับประวัติอาจารย์ด๋าง และ UE ใช้กับวิทยาศาสตร์ และจิตวิญญาณ
เรื่องที่ 3. จะเอาวิชาUE ไปไว้ในบทเรียนในมหาวิทยาลัย และใช้ในโรงพยาบาล
เรื่องที่ 4. จะทำเอกสารการสอนระดับ 1 ถึง20 โดยยึดหลักที่อาจารย์ด๋างให้ไว้
เรื่องที่ 5. ครบรอบ5ปีอาจารย์ด๋าง จะจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชาวพลังจักรวาลทั่วโลกที่คุณจุงได้ไปพบเห็นมาที่เซ็นหลุยส์

กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๕๒

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ ฉ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๔)

พ.ศ. ๒๕๔๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๔๕
ข้อ ๒ ให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกอื่น โดยคุ้มครองอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ส่งเสริมและพัฒนาการจัดระบบความรู้ และสร้างมาตรฐานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ทัดเทียมกับการแพทย์แผนปัจจุบันและนำไปใช้ในระบบสุขภาพอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย เพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ โดยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

(๒) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทยและการแพทย์ทางเลือกอื่น(

๓) กำหนด พัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย และการแพทย์ทางเลือก

(๔) ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย และการแพทย์ทางเลือกอื่น

(๕) พัฒนารูปแบบ ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการบริการด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย และการแพทย์ทางเลือกอื่น ในระบบบริการสุขภาพ

(๖) พัฒนาระบบและกลไกเพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ ให้เกิดผลสำเร็จแก่ราชการและประชาชน

(๗) รวบรวม อนุรักษ์ เฝ้าระวัง คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทยและสมุนไพร

(๘) ประสานความร่วมมือด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย การแพทย์ แผนจีนและการแพทย์ทางเลือกอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

(๙) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หรือตามที่รัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

ข้อ ๓ ให้แบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ดังต่อไปนี้

(๑) สำนักงานเลขานุการกรม

(๒) สถาบันการแพทย์แผนไทย

(๓) สำนักการแพทย์ทางเลือก

ข้อ ๔ ในกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในเพื่อทำหน้าที่หลักในการตรวจสอบการดำเนินงานภายในกรม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรมรับผิดชอบงานขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านการบริหาร การเงิน และการบัญชีของกรม

(๒) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย

ข้อ ๕ ในกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้มีกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่หลักในการพัฒนาการบริหารของกรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ารับผิดชอบงานขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการภายในกรม

(๒) ติดตาม ประเมินผล และจัดทำรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการของกรม

(๓) ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการร่วมกับหน่วยงานกลางต่าง ๆ และหน่วยงานในสังกัดกรม

(๔) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย

ข้อ ๖ สำนักงานเลขานุการกรม มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ปฏิบัติงานสารบรรณของกรม

(๒) ดำเนินการเกี่ยวกับงานช่วยอำนวยการและงานเลขานุการของกรม

(๓) วางระบบและดำเนินการเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การงบประมาณ การพัสดุ อาคาร สถานที่และยานพาหนะของกรม

(๔) จัดระบบและดำเนินการบริหารทรัพยากรบุคคลของกรม

(๕) จัดทำและประสานแผนงาน และแผนปฏิบัติการของกรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และเป็นไป ตามเป้าหมาย แนวทาง และแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง รวมทั้งเร่งรัด ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัด

(๖) ติดต่อและประสานงานกับองค์การหรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับความร่วมมือและความช่วยเหลือด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

(๗) เป็นศูนย์ข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศของกรม

(๘) ดำเนินการเกี่ยวกับการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ กิจกรรม ความก้าวหน้า และผลงานของกรม

(๙) ดำเนินการอื่นใดที่มิได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการใดของกรม(๑๐) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
หรือที่ได้รับมอบหมาย

ข้อ ๗ สถาบันการแพทย์แผนไทย มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย ยาแผนไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร

(๒) กำหนด พัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย ยาแผนไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร

(๓) พัฒนารูปแบบ ส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านไทยในระบบสุขภาพ

(๔) รวบรวม อนุรักษ์ เฝ้าระวัง คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านไทย และสมุนไพร ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

(๕) ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย ยาแผนไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร

(๖) พัฒนาระบบและกลไกเพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ ให้เกิดผลสำเร็จแก่ราชการและประชาชน

(๗) รับผิดชอบงานธุรการและงานวิชาการของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย

(๘) ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตยาแผนไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน

(๙) ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย กับการแพทย์ดั้งเดิมของประเทศอื่น

(๑๐) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย

ข้อ ๘ สำนักการแพทย์ทางเลือก มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

(๑) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาองค์ความรู้ และคัดกรองศาสตร์การแพทย์แผนจีน และการแพทย์ทางเลือกอื่น ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง(

๒) ถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านการแพทย์แผนจีนและการแพทย์ทางเลือกอื่น ที่เหมาะสม

(๓) กำหนด พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน และเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการแพทย์แผนจีนและการแพทย์ทางเลือกอื่น

(๔) พัฒนารูปแบบ ส่งเสริม และสนับสนุนให้มีบริการการแพทย์แผนจีนและการแพทย์ ทางเลือกอื่นผสมผสานในระบบสุขภาพ

(๕) ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการแพทย์แผนจีนและการแพทย์ทางเลือกอื่น

(๖) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย

ให้ไว้ ณ วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
วิทยา แก้วภราดัย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงการแบ่งส่วน
ราชการและอำนาจหน้าที่ของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้